Thursday, 23 March 2023

6 ปัจจัยชี้ชัด อาร์เซน่อล ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก

หลังจากศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ผ่านมาถึงกลางทาง อาร์เซน่อล ยังรักษาเก้าอี้จ่าฝูงเอาไว้โดยกวาดแต้มไปแล้ว 50 แต้มจากการลงสนาม 19 นัด

จากผลงานนัดล่าสุดที่เปิดบ้านปราบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ทีม ปืนใหญ่ ขยับหนี แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงเป็น 5 แต้ม และลงบู๊น้อยกว่า เรือใบสีฟ้า หนึ่งนัด

แน่ๆว่าหากแม้เส้นทางของซีซั่นจะยังเหลืออีกยาวไกล แต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่าสาวก เดอะ กันเนอร์ส ฝันถึงการครอบครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกกันแล้วนับตั้งแต่พวกเขาได้โทรฟี่ใบนี้มาเชยชมคราวสุดท้ายในซีซั่น 2003/04

ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ มันมีสัญญาณชี้ว่าอาร์เซน่อล จะบรรลุความสำเร็จในฤดูกาลนี้ อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยเหตุผล 6 ข้อดังนี้

1. แผงหลังอย่างหนา อาร์เซน่อล

กาลครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตที่ปรึกษาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยร่วงวาทะว่า “เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับทำให้คุณได้แชมป์”

เท่าที่ผ่านมา อาร์เซน่อลมีจุดอ่อนในเรื่องเกมรับมาตั้งแต่ตอนท้ายการคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ อีกทั้ง อูไน เอเมรี่ ก็ขจัดปัญหานี้ไม่สำเร็จ แต่ไม่ใช่ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งทำให้ทีมมีเกมรับที่แข็งโปก

ดังจะมีความเห็นว่านาทีนี้ เดอะ กันเนอร์ส เสียประตูใน พรีเมียร์ลีก น้อยที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก นิวคาสเซิ่ล แค่นั้นโดยพวกเขาปล่อยให้คู่แข่งยิงประตูได้แค่ 16 จาก 19 นัด

จากความยอดเยี่ยมดังกล่าว อาร่อน แรมสเดล นายทวารมือกาว สมควรได้รับคำยกย่องไม่น้อยไปกว่าบรรดาแผงหลังเพราะเขามีคลีนชีต 9 นัด เป็นรองเพียงแค่ นิค โป๊ป นายทวารทีม สาลิกาดง รายเดียวแค่นั้นที่เก็บคลีนชีตได้มากกว่า

นอกจากความเหนียวหนึบของ แรมสเดล แล้ว คู่กองหลังอย่าง วิลเลี่ยม ซาลิบา กับ กาเบรียล มากัลเญส ก็ประสานงานกันได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ เบน ไวท์ กับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สองฟูลแบ็คต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ

อีกทั้งจากสถิติที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าทีมที่มีเกมรับกล้าแกร่งมักได้แชมป์ไปครอบครองได้ในท้ายที่สุด ด้วยเหตุนั้นแล้ว อาร์เซน่อลจึงมีคุณสมบัติข้อนี้อยู่ในตัวอย่างชัดเจน

พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล

2. ฟอร์มนัดเหย้า อาร์เซน่อล

นับตั้งแต่กล่าวลา ไฮบิวรี่ มาเล่นที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในปี 2006 อาร์เซน่อลแทบจะไม่ค่อยได้สังสรรค์ใหญ่กันสักเท่าไหร่เพราะเหตุว่ากันว่าบ้านหลังปัจจุบันนี้ของพวกเขามีบรรยากาศที่เทียบกับบ้านหลังเก่ามิได้

อย่างไรก็แล้วแต่ หลังการเข้ารับตำแหน่งกุนซือของ อาร์เตต้า เขาสามารถเนรมิตให้สังเวียนแข้ง ที่ล้ำยุคเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศ ที่ครึกโครม และส่งผลให้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เปลี่ยนเป็นสมรภูมิที่น่ายำเกรงของทีมคู่แข่งไปแล้ว

จากการลงเล่นเกมลีกนัดเหย้า 9 นัดในฤดูกาลนี้ เดอะ กันเนอร์ส มีผลงานชนะ 8 เสมอ 1 เก็บได้ทั้งหมด 25 แต้มจาก 27 แต้มโดยในจำนวนนี้เป็นเกมปลิดชีพทีมใหญ่อย่าง สเปอร์ส , ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม

เท่านั้นไม่พอ ครึ่งซีซั่นที่ผ่านพ้นไป ทีมของ อาร์เตต้า ลงเล่นนัดเยือนมากยิ่งกว่านัดเหย้าด้วย มันก็เลยแปลว่าพวกเขาเหลือเกมในบ้านช่วงครึ่งซีซั่นหลังมากกว่าเกมเยือนรวมทั้งหมด 10 นัดด้วยกัน

3. สภาพจิตใจ

ปฏิเสธไม่ได้อีกด้วยเหมือนกันว่าเรื่องของหัวจิตหัวใจเปรียบได้กับข้อด้อยที่ทำให้ อาร์เซน่อล ร้างราจากการบรรลุเป้าหมายในนับเป็นเวลาหลายปีหลัง

สำหรับประเด็นนี้ ไม่ต้องดูไปไกลเลย เพราะเหตุว่าซีซั่นก่อนอาร์เซน่อล ล้มฟุบในโค้งสุดท้ายอย่างไม่น่าเชื่อ และมีอันจะต้องเสียโควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ สเปอร์ส ทีมคู่ปรับจนได้

“เราไม่ดีพอในหลายปีหลังต่อการร่วมลุ้นคว้าแชมป์ มันเป็นสิ่งที่เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราทำได้ แต่คำพูดไม่มีความหมาย เราต้องลงมือทำในสนาม” อาร์เตต้า เอ่ย

“เราต้องมีความสมดุลย์ของสภาพร่างกายและจิตใจ มันเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นของทีม คุณจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ”

“หากปราศจากสิ่งนี้ คุณจะไม่มีทางต่อสู้อย่างยาวนานเป็นเวลา 11 เดือนได้เลย และเราต้องสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาในทีม”

ถึงตอนนี้ อาร์เตต้า ไปถึงเป้าหมายแล้วจากหลักฐานการพาทีมบุก ไปเก็บสามแต้มได้อย่างไม่ตรากตรำทั้งเกมเยือน เชลซี และ สเปอร์ส ในซีซั่นนี้

ช่วงเวลาเดียวกัน พวกเขายังแซงชนะ เวสต์แฮม ได้ด้วย รวมทั้ง ฟูแล่ม และ แมนฯ ยูไนเต็ด กับการทำประตูชัยในช่วงท้ายเกมใส่ เจ้าสัวน้อย และ ผีแดงทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล ไม่เคยกลับสู่เกมได้เลยหลังเสียประตูก่อน ถ้าแต่วันนี้แม่ทัพ ปืนใหญ่ มีพลังแอบแฝงอย่างที่เห็น

ช่วงเวลาเดียวกัน มั่นใจว่าการย้ายมาของทั้ง กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ อดีตสองดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งประสบความสำเร็จได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ เรือใบสีฟ้า มาแล้วช่วยจุดประกายให้ห้องแต่งตัวของ อาร์เซน่อล ให้มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนกัน

4. ความยอดเยี่ยมของ โอเดการ์ด และ ซาก้า

เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ สำหรับทุกทีมที่ได้แชมป์ซึ่งจำเป็นจะต้องมีนักเตะ ที่ร่ายเพลงแข้งได้อย่างสุดวิเศษพร้อมเพียงกันขั้นต่ำสองราย และสำหรับ อาร์เซน่อล ชุดนี้พวกเขามี มาร์ติน โอเดการ์ด กับ บูคาโย่ ซาก้า เป็นตัวชูโรง

จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 19 นัด ซาก้า ซึ่งพัฒนาฝีเท้าได้อย่างคืบหน้าไปมากในระยะหลังมีผลงานยิงได้ 7 ประตูและ 7 แอสซิสต์

ด้านกัปตันทีม โอเดการ์ด เปลี่ยนเป็นจอมทัพของทีม ปืนใหญ่ เต็มกำลังแล้วในซีซั่นนี้จากการระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่องพาทีมกำชัยเป็นว่าเล่น

ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว ซาก้า ก็เลยมีลุ้นครอบครองรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ขณะที่ โอเดการ์ด ก็คงจะได้ลุ้นซิวรางวัลใหญ่ด้วยเช่นกัน

“เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อย่าเข้าใจผมผิด หาก ฮาลันด์ ทำประตูได้โดยตลอด แต่ อาร์เซน่อล ได้แชมป์ลีก โอเดการ์ด จะเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีสำหรับผม” ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เอ่ยออกมาเมื่อไม่นาน

ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก

5. ไม่ได้เล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

เป็นเรื่องชอกช้ำระกำใจอย่างแรงที่ อาร์เซน่อลวืดการคว้าอันดับท็อปโฟร์เมื่อซีซั่นก่อน แต่สำหรับซีซั่นนี้พวกเขาไม่มีวันปล่อยให้โควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก หลุดมือแน่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วทีมลูกหนังแห่งกรุงลอนดอนจะเข้าเส้นชัยซิวแชมป์ลีกได้เสร็จหรือไม่ก็ตาม

ต่อการพลาดโควต้าดังกล่าว กลายเป็นเรื่องดีเช่นเดียวกันเพราะว่า อาร์เซน่อล ไม่จำเป็นที่จะต้องทุ่มสมาธิให้กับศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์เหมือนกับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งจะมีผลให้ทีม ปืนใหญ่ ย้ำผลลัพธ์ของเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเต็มที่

และที่สำคัญ ไม่ใช่ความลับถึงแม้แต่น้อยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กระหายพา เรือใบสีฟ้า คว้าถ้วยหูใหญ่มาครองเป็นยุคแรกให้ได้เหตุเพราะมันเป็นโทรฟี้ใบสุดท้ายที่เขายังนำมามอบให้กับทีมเงินถังไม่สำเร็จ

ถึงเวลานี้ หากแม้ กวาร์ดิโอล่า ยังหวังป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากแลกได้ เขาหวังพาทีมซิวถ้วยหูใหญ่มาครอบครองมากกว่าซึ่งอาจเอื้อประโยชน์ให้กับ อาร์เซน่อล ไปโดยปริยาย

ในทางกลับกัน หากแม้ เดอะ กันเนอร์ส จะต้องลงเล่นเกมกลางอาทิตย์ในถ้วย ยูโรปาลีก แต่กุนซือสแปนิชไม่คิดมุ่งมั่นอยู่แล้วกับการโรเตชั่นทีมเพื่อเก็บความสดเอาไว้ไล่ล่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นหลัก

6. รอการคัมแบ็คของ เชซุส

อาการบาดเจ็บของ กาเบรียล เชซุส ในศึก ฟุตบอลโลก ถูกมองว่าจะบั่นทอนจังหวะครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซน่อล

แต่เอาเข้าให้จริงๆการร้างสนามไปนานของศูนย์หน้าทีมชาติ บราซิล มิได้ส่งผลเสียต่อ อาร์เซน่อลเลยถึงแม้แต่น้อยในเมื่อพวกเขามี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ฉายฟอร์มเด็ดยิงประตูในลีกได้ 4 ลูกจาก 5 นัดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่บอลลีกกลับมาฟาดแข้งกันอีกรอบ รวมทั้งสองประตูในเกมสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ด้วย

อย่างไรก็ดี อาร์เซน่อลกำลังรอคอยการกลับมาของ เชซุส อย่างใจจดใจจ่อเพราะเหตุว่าเขากระทุ้งประตูให้ทีมไปแล้ว 5 ลูก และ 6 แอสซิสต์จากการลงเล่นเกมลีก 14 นัดก่อนผละไปรับใช้ชาติ

ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว แม้ เชซุส ฟิตกลับมาลงสนามเมื่อไหร่ มันก็เปรียบได้เสมือนดั่ง อาร์เซน่อลได้นักเตะใหม่เพิ่มเติมรายซึ่งจะทำให้พวกเขามีความน่านับถือเยอะขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ ศึก บอลโลก 2022 ทำให้นายทัพของ กวาร์ดิโอล่า หมดพลังไปไม่น้อยจากการลงเล่นที่ กาตาร์ รวมกันเป็นจำนวน 4,572 นาที

ผิดกับอาร์เซน่อล ซึ่งนักเตะของ อาร์เตต้า ลงเล่นให้แผ่นดินกำเนิดรวมกันเพียงแค่ 1,700 นาที และมันจะทำให้พวกเขามีความสดเหนือกว่า แมนฯ ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย