Thursday, 23 March 2023

แมนยู ไม่หนัก-นิวคาสเซิล ชน เซาแธมป์ตัน สรุปผลประกบคู่ "ลีก คัพ" รอบรองชนะเลิศ

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ( แมนยู ) พบงานไม่หนักในรอบรองชนะเลิศ ลีก คัพ ส่วนอีกคู่ เซาแธมป์ตัน ปะทะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

วันที่ 12 เดือนมกราคม 66 การเปลี่ยนแปลงการแข่งขันฟุตบอล ลีก คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ปัจจุบันได้ 4 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, นอตติงแฮม ฟอเรสต์ และ เซาแธมป์ตัน ซึ่งผลของการจับฉลากประกบคู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายมีดังนี้

  • เซาแธมป์ตัน พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
  • นอตติงแฮม ฟอเรสต์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับการแข่งขันฟุตบอล ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ จะแข่งในระบบเหย้า-เยือน โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน ฟอเรสต์ ก่อน ส่วนอีกคู่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน

สำหรับเกมแรกจะ ทำการแข่งขันช่วงอาทิตย์วันที่ 23 ม.ค. และเกมที่สองฟาดแข้งตอนสัปดาห์วันที่ 30 เดือนมกราคม โดยจะมีการประกาศวันแข่งอย่างเป็นทางการต่อไป

ปิศาจแดง

แมนยู ดวลฟอเรสต์ เซาแธมป์ตันพบนิวคาสเซิล ตัดเชือกคาราบาว คัพ

ปีศาจแดงได้ ดวลเจ้า ป่าในรอบตัดเชือกคาราบาว คัพ ส่วนอีกคู่เป็นนักบุญเจอกับสาลิกาดง

ผลการจับสลากการเกาะติดคู่ คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ผลปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องเจอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ส่วน เซาแธมป์ตัน ได้พบกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

ปีศาจแดง เอาชนะทีมจากลีกวันอย่าง ชาร์ล์ตัน แอธเลติก แบบไม่ยากเย็น 3-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จับฉลากได้มาดวลกับ เจ้าป่า ซึ่งดวลจุดโทษชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 4-3 (เสมอใน 90 นาที 1-1)

ส่วนอีกคู่ นักบุญ ที่สร้างเซอร์ไพรส์เปิดบ้านชนะยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 จะได้ปะทะกับ สาลิกาดง ซึ่งก็เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศมาด้วยสกอร์เดียวกัน 2-0

ทั้งนี้ รอบรองชนะเลิศนัดแรก จะชิงชัยในตอนอาทิตย์ของวันที่ 23 มกราคม ส่วนนัดสองจะแข่งขันในตอนสัปดาห์ของวันที่ 30 เดือนมกราคม โดยที่มีชื่อเริ่มจะได้เป็นเจ้าบ้านก่อนในนัดแรก

คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เซาแธมป์ตัน พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

มีส่วนพาทีมบินสูง! 4 แข้งแมนยู ฟอร์มเปรี้ยงมากสุดในยุคเทนฮาก

เปิดรายชื่อ 4 แข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ร้อนแรงที่สุดในยุคของ เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ จนทีส่วนสำคัญพาทีมทำผลงานติดลมบนอยู่ในขณะนี้

4.ดาบิด เด เคอา

ถึงแม้ทีมจะมีผลงานตกต่ำ ในช่วงต้นฤดูกาล แต่จะต้องยอมรับว่าฟอร์มของนายด่าน ชาวสแปนิชเป็นเยี่ยมในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในยุคของ เทน ฮาก โดยโชว์ ซูเปอร์เซฟ ช็อตสำคัญช่วยทีมรอดพ้นจากการเสียประตูได้หลายคราว

เด เคอา เก็บคลีนชีตได้ 8 ครั้งซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดเป็นอับดับสองร่วมในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ เวลาเดียวกันในศึกยูโรปาลีกเจ้าตัวก็เก็บคลีนชีตได้ 4 จาก 6 นัดในศึกยูโรปาลีก

แน่นอนว่าจากผลงานกลุ่มนี้ เด เคอา ควรได้รับเครดิตไปเต็มๆและหากยังรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอก็ทำให้เขาได้โอกาสเอารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกก็เป็นไปได้

3.คริสเตียน เอริกเซ่น

มิดฟิลด์ชาวเดนมาร์กพึ่งย้ายมาเล่นใน โรงละครแห่งความฝัน เป็นฤดูกาลแรก หลังหมดสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

การมาของ เอริกเซ่น นั้นเขามาช่วยยกระดับแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเห็นได้ชัด โดยทำไป 2 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 26 นัดในซีซั่นนี้ และเปลี่ยนเป็นแข้งที่ทำแอสซิสต์มากมายสุดเป็นอันดับสองในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย

2.กาเซมีโร่

แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงินสูงถึง 70 ล้านปอนด์ ดึงตัวมิดฟิลด์ชาวบราซิลมาจาก เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และจนถึงเวลานี้เขาได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวก “เร้ด เดวิลส์” ไปเรียบร้อย หลังเข้ามาแก้ข้อบกพร่องในแดนกลางให้กับทีมได้ แบบไร้ข้อครหา

ตัวรุกวัย 30 ปี แปลงเป็นหัวใจแดนกลางของ “ปีศาจแดง” โดยนอกจากจะตัดเกมแนวรุกคู่แข่งได้ดีแล้ว เขายังมีส่วนกับเกมรุกของทีมด้วย โดยทำไป 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 24 เกมในฤดูกาลนี้

การตัดสินใจเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ชาวบราซิลนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งจุดแปลงสำคัญที่กลับโฉมหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเลย

1.มาร์คัส แรชฟอร์ด

ชื่อของ แรชฟอร์ด เคยแทบจะเป็นดาวดับไปแล้ว หลังจากมีผลงานที่ดิ่งลงเหวในสมัยก่อนหน้าที่ เทน ฮาก จะเข้ามากุมบังเหียน กระทั่งมีอนาคตที่ไม่แน่นอนในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

แต่ในซีซั่นนี้ตัวรุกวัย 25 ปี กลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้อีกรอบ โดยตะบันไปถึง 15 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 25 เกม และเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมเดี๋ยวนี้ด้วย

ถ้าหากสุดท้ายเขายังสามารถรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอมันจะก่อให้มูลค่าในตลาดนักเตะจะสูงมากขึ้น และน่าสนใจว่าเขาจะสามารถพาทีมครอบครองแชมป์รายการต่างๆในปีนี้ได้ไหม