เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติ เบลเยียม ออกมาเปิดใจหลังเอาชนะ แคนาดา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 นัดแรก วันที่ 24 พ.ย. 65 เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียมของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สารภาพ ตนเองโชว์ฟอร์มได้ไม่ดี และรู้สึกแปลกใจที่ได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมชนะ แคนาดา 1-0 ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดแรก เมื่อคืนนี้วันพุธที่ผ่านมา พร้อมอธิบายกรณีมีปากเสียงน้อยกับ โรเบร์โต มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีม และ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ แนวรับเพื่อนร่วมทีม
เดอ บรอยน์ พูดว่า “ผมไม่ได้มีเกมที่ยอดเยี่ยมเลย ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้รางวัลนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะชื่อเสียงของผม!
“เราเล่นกันไม่ดีในฐานะทีม เราไม่กล้าหาญพอ ผมคิดว่าเรามีพื้นที่ในการเจาะคู่แข่งมากกว่าที่เห็น และผมคิดว่าเราเล่นบอลยาวมากไป อย่างไรก็ตาม การพูดคุยกันเกี่ยวกับแนวทางการเล่นก็ไม่มีปัญหา เรารู้ว่าอะไรจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ท้ายที่สุดแล้วฟอร์มการเล่นก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดเช่นกัน เราไม่ดีพอ แต่สปิริตของการต่อสู้นั้นดี นั่นคือสิ่งที่เรามีมาตลอด เราต้องดีกว่านี้ รวมถึงตัวผมด้วย’
สรุปหลังเกม เบลเยียม 1-0 แคนาดา ศึกฟุตบอลโลก 2022
ทีมชาติเบลเยียม เปิดนัดแรกศึก ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการหั่นชนะ แคนาดา ไปแบบโรคหืดจับ 1-0 ขึ้นไปนำจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ
กองทัพ เมเปิ้ลส์ ได้โอกาสทองที่จะทำแต้มออกนำ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ไปก่อน จากจังหวะจุดลูกโทษในนาทีที่ 11 แต่ อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ สตาร์ตัวเก่งของทีมซัดไปติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารจอมหนึบ เบลเยียม
อย่างไรก็แล้วแต่ ทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กลับมาได้ประตูออกนำในนาทีที่ 44 จาก มิชี่ บาตชูอายี่ และเป็นประตูชัยช่วยทำให้พวกเขาเก็บสามแต้มสำคัญ
ปีศาจแดงแห่งยุโรป และบทสรุปหลังเกม เบลเยียม 1-0 แคนาดา
คีย์แมน – ติโบต์ กูร์กตัวส์
สปอร์ตไลท์อาจส่องไปที่ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางจอมสร้างสรรค์ สังกัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเขาได้รับการโหวตให้เป็น ”แมน ออฟ เดอะ แมตช์”
แต่สำหรับเกมนี้จำเป็นต้องยกครดิตให้ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เพราะว่าเขาเป็นคนเซฟจุดลูกโทษ อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ ช่วยทำให้ทีมไม่กลายเป็นฝ่ายตามหลังก่อน
หลักสำคัญหลังเกม – แคนาดา ทำดี แต่เหตุใดถึงแพ้?
แน่นอนถ้าหากคนใดกันแน่ไม่ได้ดูเกมนี้ อาจมีความคิดว่าเบลเยียม น่าจะเป็นฝ่ายรัวบุกใส่ และคว้าสามแต้มได้โดยง่ายนัก แต่ในรายละเอียดของเกมนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
กองทัพ เมเปิ้ลส์ เริ่มได้อย่างแจ่มใส พวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่น ตั้งใจ และไม่มีความเกรงกลัวแต่ประการใด
พวกเขาทำให้เบลเยียม พบสถานการณ์ที่ยากลำบาก – เพรสซิ่งแดนบน เกาะติดแบบแมน-มาร์คกิ้ง หรือตัวต่อตัว และพยายามคุมพื้นที่แดนกลางทำให้ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ไม่สามารถที่จะตั้งเกมที่ตัวเองถนัดได้ และทำเป็นแค่จ่ายบอลไปๆมาๆ ไม่สามารถที่จะแทงบอลเข้ากลางได้ และบางทีจำเป็นต้องอาศัยวางบอลยาวจากหลังไปหน้า ถ้าหากมีพื้นที่
อติบา ฮัทชินสัน กองกลาง แคนาดา รอตามเกาะติด เควิน เดอ บรอยน์ แบบตัวต่อตัว ประเภทที่ ‘อย่าให้ เดอ บรอยน์ เข้ามาในพื้นที่อันตราย’
ต่อเมื่อ ฮัทชินสัน เปิดพื้นที่ให้ เดอ บรอยน์ เบลเยียม ถึงจะได้โอกาสโจมตีในพื้นที่สุดท้าย
ประตูชัยที่ทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ได้ เป็นการฉกฉวยจังหวะได้ดีจริงๆเมื่อ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ มองเห็นพื้นที่ว่างในแดนหน้าเลยตกลงใจวางบอลยาวจากแดนหลังไปให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ทันที ก่อนที่ศูนย์หน้าวัย 29 ปี จะซัดตูมเดียวเข้าไป
นี่เป็นความเก๋าและความเด็ดขาดที่ทีมใหญ่มี แต่ แคนาดา ไม่มี – พวกเขาขาดความเด็ดขาด ขาดคุณภาพในพื้นที่สุดท้าย พวกเขาได้โอกาสสับไกในเกมนี้ไปทั้งสิ้น 22 ครั้ง แต่ตรงกรอบแค่เพียง 3 ครั้ง (ครึ่งแรกสับไก 14 ครั้ง, ตรงกรอบ 2)
“คูร์ตัวส์” ฮีโร่เซฟจุดลูกโทษพาเบลเยียม เฉือนชนะแคนาดา 1-0
ผลฟุตบอลโลก 2022 รอบเเบ่งกลุ่ม กลุ่ม F วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน เบลเยียม เจอ แคนาดา
เบลเยียมตกลงส่ง เอแด็น อาซาร์ กองหน้าตัวเก๋าออกสตาร์ทเป็นตัวจริง อีกทั้งที่ไม่ค่อยได้เล่นกับ เรอัล มาดริด ส่วน แคนาดา รอคอยมา 36 ปี กับฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ของพวกเขา
ตอนแรกแคนาดาทำดีมากกว่าอย่างน่าอัศจรรย์ นาทีที่ 8 ได้โอกาสได้ประตูออกนำจากลูกจุดลูกโทษจากกระบวนการทำแฮนด์บอล เเต่ อัลฟอนโซ่ เดวีส์ ยิงไปติดเซฟ ธิโบต์ คูร์ตัวส์
แคนาดาที่บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่า แต่กลับมาโดนประตูออกนำ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ วางบอลยาวจากแดนตัวเองถึง มิชชี่ บัตชัวยี่ ซัดด้วยซ้ายไม่เหลือ เบลเยียมนำ 1-0 นาทีที่ 44
เวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมได้โอกาสเท่าเทียมกัน เเต่ไม่มีฝ่ายไหนทำแต้มเพิ่มได้ ครบ 90 นาที เบลเยียมเฉือนเอาชนะแคนาดา แบบหืดจับสุดๆ1-0